ข้อบังคับ
นิติบุคคลหมูบ้านจัดสรร พฤกษา 14B

หมวดที่ 1
บททั่วไป

ข้อ1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B” และนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรนี้มีชื่อว่า “นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B”
ข้อ2. ในข้อบังคับนี้
“นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร” หมายถึง “นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B”
“คณะกรรมการนิติบุคคล” หมายถึง คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B
“กรรมการนิติบุคคล” หมายถึง กรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B
“สิทธิในที่ดิน” หมายถึง กรรมสิทธิ์และให้หมายความรวมถึงสิทธิครอบครองที่ดินด้วย
“ผู้จัดสรรที่ดิน” หมายถึง ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ทำการจัดสรรที่ดินโครงการหมู่บ้านพฤกษา 14B และให้หมายความรวมถึงผู้รับโอนใบอนุญาตด้วย
“ผู้ซื้อที่ดินจัดสรร” หมายถึง ผู้ทำสัญญากับผู้จัดสรรที่ดินเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินจัดสรร และให้หมายความรวมถึงผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินรายต่อๆไปด้วย
“สมาชิก” หมายถึง สมาชิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ซื้อที่ดินจัดสรรทุกรายที่ได้ซื้อี่ดินจัดสรรจากผู้จัดสรรที่ดิน และผู้รับโอนกรรมสิทธิ์รายต่อๆไป และผู้จัดสรรที่ดิน (ในกรณีที่มีที่ดินจัดสรรแปลงย่อยที่ยังไม่มีผู้ใดซื้อ และ/หรือ ได้โอนกลับมาเป็นของผู้จัดสรรที่ดิน)
“บริวารของสมาชิก” หมายถึง ครอบครัวของสมาชิก อาทิ บิดา, มารดา, บุตร, ผู้เช่า และให้รวมถึงผู้พักอาศัยที่อยู่นี่ดินแปลงจัดสรรของสมาชิก
“สาธารณูปโภค” หมายถึง ระบบหรือการบริการที่ผู้จัดสรรี่ดินได้จัดให้มีขึ้น เพื่อการจัดสรรี่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต
“บริกรสาธารณะ” หมายถึง การให้บริการหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการจัดสรรที่ดิน ที่กำหนดไว้ในโครงการที่ขออนุญาตจัดสรรที่ดิน
“ค่าใช้จ่าย” หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการจัดการสาธารณูปโภค การดูแลรักษาความปลอดภัย ความสะอาด และค่าบริหารการจัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และค่าบริการสาธารณะต่างๆ
“คณะกรรมการจัดสรรที่ดิน” หมายถึง คณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด นนทบุรี
“เจ้าพนักงานที่ดิน” หมายถึง เจ้าพนักงานที่ดิน ซึ่งเป็นผู้ปฎิบัติการในการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน
“เจ้าหน้าที่นิติบุคคล” หมายถึง เจ้าหน้าที่ของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ที่คณะกรรมการนิติบุคคล ได้ว่าจ้างให้เข้ามาปฏิบัติงานภายในหมู่บ้าน ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการนิติบุคคล และ/หรือ ที่ประชุมใหญ่สมาชิก

ข้อ3. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับผู้จัดสรรที่ดิน สมาชิก คณะกรรมการนิติบุคคล เจ้าหน้าที่นิติบุคคล พร้อมทั้งบริวารและสมาชิก หรือผู้แทนทุกคนภายในหมูบ้านจัดสรร และให้บังคับใช้รวมถึงผู้ใช้บริการอื่นๆ นับตั้งแต่วันที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเป็นต้นไป

ข้อ4. ข้อบังคับนี้ถ้ามิได้ตราไว้เป็นอย่างอื่น ให้นำพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมาใช้บังคับ


หมวดที่ 2
วัตถุประสงค์

ข้อ5. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสารมีวัตถุประสงค์เพื่อรับโอนที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภค และบริการสาธารณะ ที่ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดมีขึ้นเพื่อการจัดสรรตามแผนโครงการที่ได้รับอนุญาต ไปจัดการดูแลและบำรุง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกหมู่บ้านจัดสรร รวมทั้งบริหารจัดการดูแลทรัพย์สินอันเป็นสาธารณูปโภค และบริการสาธารณะ ตลอดจนบัญชีการเงิน และความเรียบร้อยภายในหมู่บ้าน และให้มีอำนาจกระทำใดๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการอยู่อาศัยและการใช้ประโยชน์ร่วมกันจองสมาชิก ทั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาชิก และ/หรือ มิติของกรรมการนิติบุคคล ภายใต้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดินพ.ศ. 2543 ดังต่อไปนี้
5.1 กำหนดระเบียบเกี่ยวกับใช้ประโยชน์สาธารณูปโภค
5.2 กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการอยู่อาศัย และการจราจรภายในที่ดินจัดสรร
5.3 เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการจัดการสาธารณูปโภคในส่วนที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร มีหน้าที่บำรุงรักษาจากสมาชิก
5.4 ยื่นคำร้องทุกข์ หรือโจทก์ยื่นฟ้องแทนสมาชิก เกี่ยวกับกรณีที่กระทบสิทธิหรือประโยชน์ของสมาชิกจำนวนตั้งแต่สิบรายขึ้นไป
5.5 จัดให้มีบริการสาธารณะเพื่อสวัสดิการของสมาชิก หรือจัดสรรเงินหรือทรัพย์สินเพื่อสาธารณะประโยชน์
5.6 ดำเนินการอื่นให้เป็นไปตามกฎกระทรวง ระเบียบของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง หรือข้อบังคับของคณะกรรมการจัดสรรที่ดิน ที่ออกโดยอาศัยอำนาจพระราชบัญญัตินี้
5.7 ดำเนินการเกี่ยวกับการบัคับชำระหนี้ กรณี่สมาชิกไม่ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทำการเรียกเก็บ
5.8 ดำเนินการติดต่อ ว่าจ้างบุคคลหรือนิติบุคคล หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ให้เข้ามาดูแล บำรุงรักษา ซ่อมแซมสาธารณูปโภคส่วนกลาง
5.9 จัดการดูแลและบำรุงรักษาสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะภายในหมู่บ้านจัดสรร ให้คงสภาพดี เพื่อสมาชิกใช้ประโยชน์ได้ตลอดเวลา
กาดำเนินการตาม (5.1) (5.2) (5.5) จะต้องได้รับความเห็นชอบจากมิติที่ประชุมใหญ่ของสมาชิก


หมวดที่3
ที่ตั้งสำนักงาน

ข้อ6. สำนักงานนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตั้งอยู่เลขที่ 91/180 หมู่ 2 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี

หมวดที่ 4
คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

ข้อ7. ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ที่ดินจดทะเบียนแล้ว มีฐานะเป็นนิติบุคคล และให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรมีคณะกรรมการนิติบุคคล จำนวนไม่เกิน 15 คน โดยการแต่งตั้งจากที่ประชุมใหญ่สมาชิก และให้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมาย และข้อบังคับของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และ/หรือ ภายใต้การควบคุมดูแลของที่ประชุมใหญ่สมาชิก และหากใหกรณีที่กรรมการนิติบุคคล พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ และมีจำนวนกรรมการนิติบุคคลคงเหลือไม่ถึง 5 คน ให้คณะกรรมการนิติบุคคล จัดประชุมใหญ่สมาชิกเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการนิติบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งทดแทนและผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งทดแทน จะมีวาระการดำรงตำแหน่งเทียบเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการนิติบุคคลที่พ้นจากตำแหน่ง คณะกรรมการนิติบุคคล มีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งจากที่ประชุมสมาชิกใหญ่คณะกรรมการนิติบุคคลเป็นผู้แทนของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก

ข้อ8. การประชุมคณะกรรมการนิติบุคคล กำหนดให้มีขึ้นอย่างน้อปีละ 2 ครั้ง และการประชุมของคณะกรรมการนิติบุคคลนั้น จะต้องมีกรรมการนิติบุคลมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนคณะกรรมการนิติบุคคลที่เหลืออยู่จึงครบเป็นองค์ประชุม

ข้อ9. ให้ที่ประชุมคณะกรรมการนิติบุคคล แต่งตั้งกรรมการนิติบุคคลท่านหนึ่งท่านใดเป็นประธานคณะกรรมการนิติบุคคล และทำหน้าทีเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการนิติบุคคล และ/หรือ ที่ประชุมใหญ่สมาชิกโดยตำแหน่ง หากประธานคณะกรรมการนิติบุคคลไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการนิติบุคคลท่านหนึ่งท่านใด ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน
มิติของที่ประชุมคณะกรรมการนิติบุคคล ต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากของกรรมการนิติบุคคลที่เข้าร่วมประชุม คะแนนเสียงของกรรมการนิติบุคคลแต่ละราย มีคะแนนเสียงเท่ากับหนึ่งเสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

ข้อ10. บุคคลดังต่อไปนี้มีสิทธิได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการนิติบุคคล
10.1 สมาชิกหรือคู่สมรสของสมาชิก หรือบิดาหรือมารดาของสมาชิก หรือบุตรที่บรรลุนิภาวะของสมาชิก
10.2 ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ ในกรณีที่สมาชิกเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามาถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ แล้วแต่กรณี
10.3 ผู้จัดการหรือผู้แทน ในกรณีที่นิติบุคคลนั้นเป็นสมาชิก โดยจะต้องระบุชื่อให้ทราบ ในวันเลือกตั้งเป็นกรรมการนิติบุคคล ในที่ประชุมใหญ่สมาชิก

ข้อ11. ให้กรรมการนิติบุคคลพ้นจากตำแหน่งในกรณีดังต่อไปนี้
11.1 ตาย
11.2 ต้องคำพิพากษาให้บุคคลล้มละลาย หรือศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
11.3 ได้รับโทษจำคุก โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาณ หรือความผิดลหุโทษ
11.4 ตกเป็นคนวิกลจริต หรือศาลส่งให้เป็นบุคคลำไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามาถ
11.5 ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
11.6 ลาออก โดยแสดงความจำนงเป็นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการนิติบุคคล
11.7 ที่ประชุมใหญ่มีมติให้ออก
11.8 ค้างชำระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการจัดการสาธารณูปโภค ค่าบริการสาธารณะติดตั้งกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
11.9 ขาดจากการเป็นสมาชิก โดยสมาชิกหรือคู่สมรสได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจัดสรรให้บุคคลอื่นทั้งหมด และให้รวมถึงกรณีบิดา/มารดารของสมาชิก หรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะของสมาชิก ที่ใช้สิทธิ์เป็นกรรมการนิติบุคคล ก็ให้พ้นจากตำแหน่งด้วยเช่นกัน

หมวดที่ 5
การดำเนินงาน การบัญชี และการเงิน


ข้อ12.สามาชิกแต่ละรายไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง หรือที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้าง จะโดยพักอาศัยหรือไม่พักอาศัยในที่ดินแปลงจัดสรรก็ตาม จะต้องออกค่าจ่ายในการบำรุงรักษา และการจัดการสาธาณูปโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเดือน ตามอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในอัตราตามมิติที่ประชุมใหญ่สมาชิกจะกำหนดอัตราข้างต้นกำหนดให้สามาชิกชำระล่วงหน้าเป็นรายเดือน และจะต้องชำระให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน หรือสมาชิกอาจชำระล่วงหน้าเป็นรายปีก็ได้ โดยชำระ ณ สำนักงานที่ตั้งของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรอัตราค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้นี้ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมทางสภาพเศรษฐกิจซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่

ข้อ13. ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรรายงานกิจการ งบดุล บัญชีรายรับ-รายจ่าย ซึ่งผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตได้รับรองแล้วต่อคณะกรรมการจัดสรรที่ดินภายในสามเดือนนับตั้งแต่วันสิ้นงวดการบัญชีและประกาศรายงานดังกล่าวโดยเปิดเผยให้สมาชิกทราบทุกปี และรอบปีบัญชีของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรนี้ คือวันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 31 ธันวาคม ของทุกรอบปีปฏิทิน

ข้อ14. การจัดเก็บค่าช้จ่าย ผู้รับเงินของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจะออกหลักฐานเป็นกนังสือ ให้แก่ผู้ชำระเงินทุกครั้ง โดยหลักฐานดังกล่าวทุกฉบับให้มีสำเนาอย่างน้อย 1 ฉบับ หลักฐานตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการตามที่กฎหมายกำหนดดังต่อไปนี้
(4) ชื่อของสำนักงานผู้รับเงิน
(5) วัน เดือน ปีที่รับเงิน
(6) ชื่อผู้ชำระเงิน
(7) จำนวนเงินที่รับชำระทั้งตัวเลขและตัวอักษร
(8) ข้อความที่ระบุว่า ได้มีการรับเงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนใด หรือปีใดไว้เป็นการถูกต้อง
(9) ข้อความที่ระบุว่า ได้มีการรับเงินค่าปรับประจำเดือน หรือปีใดไว้เป็นการถูกต้อง (ถ้ามี)
(10)ลายมือชื่อผู้รับเงิน พร้อมตราประทับ (ถ้ามี)

ข้อ15. เมื่อเริ่มจัดเก็บค่าใช้จ่าย ให้คณะกรรมการนิติบุคคล จัดทำบัญชีในแต่ละเดือนเก็บไว้ ณ ที่ตั้งสำนักงาน ตามข้อบังคับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรว่าด้วยข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินการบัญชีและการเงิน การทำบัญชีตามวรรคหนึ่ง ต้องมีการแสดงงบรายรับ รายจ่ายตามมาตราฐาน หลักการบัญชีและงบดุล เกี่ยวกับทรัพย์สิน หนี้สิน และส่วนของสมาชิกด้วย

ข้อ16. รายรับของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรทั้งหมด ให้นำฝากไว้ในธนาคาร ในนามของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B
ให้คณะกรรมการนิติบุคคลใช้ดุลพินิจในการเปิดบัญชีเงินฝาก และการสั่งจ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดและความมั่งคงทางการเงินของนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

ข้อ17. การลงลายมือชื่อเพื่อให้มีผลผูกพันธ์กับนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ให้ปฏิบัติดังนี้
17.1 กรณีลงนามในหนังสือทั่วไป จดหมายติดต่อกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก ให้ลงลายมือชื่อโดยประธานคณะกรรมการนิติบุคคล
17.2 กรณีทำนิติกรรมสัญญาต่างๆ ให้ลงลายมือชื่อโดยประธานกรรมการนิติบุคคล และกรรมการนิติบุคคลอื่นๆอีกสอง (2) คน ทั้งนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมของคณะกรรมการนิติบุคคล

ข้อ18. ในกรณีผู้มีหน้าที่ชำระเงินมีความประสงค์จะขอตรวจ หรือขอคัดสำเนาเอกสารบัญชีหรือรายงานในหมวดนี้ ให้คณะกรรมการนิติบุคคลดำเนินการให้ผู้ขอ โดยมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายได้เท่าที่จำเป็น


หมวดที่ 6
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก


ข้อ19. มีสิทธิในการเรียกประชุมใหญ่สมาชิก ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้

ข้อ20. มีสิทธิ์ใช้สาธารณูปโภค และการบริการสาธารณะเท่าที่ไม่ขัดต่อกฎระเบียบข้อบังคับ

ข้อ21. มีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้จ่าย ตามที่ระบุไว้ในหมวดที่ 5

ข้อ22. มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับฉบับนี้และกฎระเบียบที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนิติบุคคล และ/หรือที่ประชุมใหญ่สมาชิก

ข้อ23. ให้สมาชิกพ้นจากสภาพการเป็นสมาชิกในกรณีดังต่อไปนี้
23.1 ตาย
23.2 โอนกรรมสิทธิ์ในแปลงที่ดินจัดสรรให้บุคคลอื่นทั้งหมด


หมวดที่ 7
การประชุมใหญ่สมาชิก

ข้อ24. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยครั้งแรกกำหนดให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร จัดให้มีขึ้นภายใน 6 เดือน นับจากวันจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

ข้อ25. บุคคลต่อไปนี้มีสิทธิในการเรียกประชุมใหญ่สมาชิก
25.1 คณะกรรมการนิติบุคคล
25.2 สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

ข้อ26. นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อใดก็ได้ แล้วแต่จะเห็นสมควร และ/หรือ สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทำหนังสือร้องของต่อคณะกรรมการนิติบุคคลให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญก็ได้ และในหนังสือร้องขอนั้นต้องระบุว่าประสงค์ให้เรียกประชุมเพื่อการใด
เมื่อคณะกรรมการนิติบุคคล ได้รับหนังสือร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่สามัญตามวรรคแรก ให้คณะกรรมการนิติบุคคลเรียกประชุมใหญ่วิสมัญ โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 30 วัน (สามสิบวัน) นับตั้งตั่นที่ได้รับการร้องขอจากสมาชิก ถ้าคณะกรรมการนิติบุคคลไม่เรียกประชุมภายนระยะเวลาข้างต้น สมาชิกผู้ร้องขอให้เรียกประชุมจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจะเรียกประชุมเองก็ได้ โดยให้สมาชิกหรือตัวแทนของสมาชิกร้องขอ ส่งหนังสือนัดประชุมและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังสมาชิกทุกคนก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 15 วัน (สิบห้าวัน) โดยหนังสือประชุมนั้นให้ระบุวันเวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุมไว้ด้วย

ข้อ27. ในการเรียกประชุมใหญ่สมาชิก คณะกรรมการนิติบุคคลต้องส่งหนังสือนัดประชุม และเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังสมาชิกทุกคนก่อนวันประชุมไม่น้อยกว่า 15 วัน (สิบห้าวัน) หนังสือนัดประชุมตามวรรคหนึ่งต้องระบุวัน เวลา สถานที่ และระเบียบวาระการประชุมไว้ด้วย

ข้อ28. การประชุมใหญ่สมาชิกต้องมีสมาชิกประชุม ซึ่งมีเสียงคะแนนไม้น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนเสียงลงคะแนนทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม
ในกรณีการประชุมครั้งใด ถ้าไม่มีองค์ประชุมที่กำหนดไว้ และการประชุมใหญ่นั้นได้เรียกตามคำร้องขอของสมาชิกก็ให้งดประชุม แต่ถ้าเป็นประชุมใหญ่ที่สมาชิกมิได้เป็นผู้ร้องขอให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเรียกประชุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง โดยจัดให้มีการประชุมขึ้นภายใน 30 วัน (สามสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่ประชุมใหญ่ครั้งแรก การประชุมครั้งหลังนี้ต้องมีสมาชิกมาประชุม และมีเสียงลงคะแนนรวมกันไม่น้อยกว่าสิบของจำนวนเสียงลงคะแนนทั้งหมด และมีจำนวนสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าสิบคนจึงจะเป็นองค์ประชุมมติของที่ปรุมใหญ่สมาชิกให้ใช้คะแนนเสียงข้างมากขององค์ประชุม

ข้อ29. ให้สมาชิกคนหนึ่ง มีคะแนนเสียงเท่ากับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบำรุงและจัดการสาธารณูปโภค ถ้าสมาชิกคนเดียว มีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ของจำนวนคะแนนเสียงทั้งหมด ให้ลดจำนวนคะแนนเสียงของผู้นั้นลงมาเหลือเท่ากับจำนวนคะแนนเสียงของสมาชิกอื่นรวมกัน ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้นับจำนวนสมาชิกที่ออกเสียงลงคะแนนเป็นเกณฑ์ในการลงคะแนนเสียง

หมวดที่ 8
การแก้ไขข้อบังคับ

ข้อ30. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับจะกระทำได้ ก็โดยมติที่ประชุมใหญ่ของสมาชิก ยกเว้นหมวดที่ 9 การยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ให้ใช้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนคะแนนเสียงของสมาชิกทั้งหมด

ข้อ31. บุคคลต่อไปนี้มีสิทธิ์ในการเสนอ ขอแก้ไขข้อบังคับ
31.1 คณะกรรมการนิติบุคคล
31.2 สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมด ทำหนังสือร้องขอต่อคณะกรรมการนิติบุคคล
ข้อ32. หลังจากที่ประชุมใหญ่สมาชิกมีมิติเปลี่ยนแปลงแก้ไข้ข้อบังคับแล้ว ให้คณะกรรมการนิติบุคคลยื่นคำขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับตามแบบที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกำหนด ต่อเจ้าพนักงานที่ดิน พร้อมด้วยหลักฐานตามที่กฎหมายำหนด

หมวดที่9
การยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร

ข้อ33. เมื่อนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรจะจดทะเบียนจัดตั้งแล้ว ต่อมาที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกมีมติให้ยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนคะแนนเสียงของสมาชิกทั้งหมด ให้คณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรยื่นคำขอจะทะเบียนยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรตามแบบที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางกำหนด ต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขาแห่งท้องที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ พร้อมด้วยหลักฐานตามกฎหมายกำหนด

ข้อ34. เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขาจดทะเบียนยกเลิกนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรแล้ว ให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเป็นอันยกเลิก และให้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

หมวดที่ 10
บทเฉพาะการ

ข้อ35. นับตั้งแต่วันจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B กำหนด ให้สมาชิกออกค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นเงิน 3 บาท ต่ออัตราส่วนค่าใช้จ่าย สำหรับในปีต่อไปให้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเป็นผู้กำหนด

ข้อ36. กำหนดให้มีการประชุมใหญ่ครั้งแรกภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร พฤกษา 14B จากสำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินสาขา